แชมพูสระผมสมุนไพรนพเก้า ลดการหลุดร่วง กระตุ้นเส้นผมใหม่ ลดผมหงอก กำจัดรังแค ชันนตุ เหา
แชมพูสระผมสมุนไพรออร์แกนิค100% มีส่วนผสมของ
- อัญชัน รักษาผมแห้งแตกปลาย ทำให้เส้นผมดกดำ ลดผมหงอก
-มะกรูด ช่วยกำจัดรังแค แก้อาการคันศีรษะ จากรังแค รักษาผมร่วง
-ประคำดีควาย ลดความมันบนหนังศีรษะ กระตุ้นการเกิดเส้นผมใหม่ บำรุงรากผมให้แข็งแรง
แชมพูสระผมนพเก้า ผมสวยด้วยธรรมชาติ
ผลลัพธ์จากการใช้แชมพูสมุนไพรนพเก้าสระผมเป็นประจำ มีเส้นมผมเกิดใหม่ รากผมแข็งแรงไม่หลุดร่วงง่าย ผมมีน้ำหนัก ดกดำเป็นเงางาม ยาวเร็ว และลดผมหงอก สีผมเข้มขึ้น
รีวิวจากผู้ใช้จริง จากผมบางจนเห็นหนังศีรษะ มีเส้นผมใหม่ขึ้นมา ทำให้ผมหนาขึัน สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้แชมพูสระผมสมุนไพรนพเก้าเป็นจำนวนมาก
ต้นกำเนิดแชมพูสมุนไพรนพเก้า มาจากเจ้าของแบรนด์นพเก้าไทยแลนด์ จากจิตตั้งต้น
"ถ้าพี่ทำมันต้องดี ถ้าไม่ดีพี่ไม่ทำ"
แชมพูสระผมสมุนไพรนพเก้า ใช้ได้ตั้งแต่เด็กเล็กถึงผู้สูงอายุ
สรรพคุณลดการหลุดร่วงเส้นผม
กระตุ้นเส้นผมใหม่ ลดหงอก
กำจัดรังแค ชันนะตุ เหา
เส้นผมดกดำเป็นเงางาม
ช่วยล้างสารเคมี
ครั้งแรกสระผมทุกวัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อล้างสารเคมี ทำความสะอาดหนังศีรษะ
หรือกำจัดเชื้อรา หมักทิ้งไว้ 5-10 นาที และไม่ต้องใช้ครีมนวดผม หลังการใช้ 2-3 วันแรก
เส้นผมจะหนืดเหนียวไม่ต้องตกใจ ใช้เกิน 7-10 วัน ผมกลับมานุ่มสลวยดูเป็นธรรมชาติ
และใช้ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ
ใช้แชมพูสมุนไพรอย่างไรให้มีผลลัพธ์
หนังศีรษะคือผิวหนัง มีเหงื่อออก มีสิ่งสกปรกเข้าได้ มีน้ำมันใต้รูขุมขน เป็นสาเหตุทำให้เส้นผมหลุดร่วง มีรังแค การสระผมทุกวัน หรือ วันเว้นวัน อย่าเว้นเกิน 3 วัน หนังศีรษะสะอาด เป็นกระตุ้นเซลล์เส้นผมใหม่ รากผมแข็งแรง ผมร่วงน้อยมาก และไม่มีรังแค
- ผมร่วงหนักมาก สระผมทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน
- ผมร่วง มีรังแค ผมหงอก สระวันเว้นวัน เป็นเวลา 3 เดือน
ราคา 300 บาท
-------------------------------------
สนใจสั่งซื้อสินค้า>>สมัครตัวแทน>>สอบถาม
>>พูดคุย>>รับส่วนลด คลิกที่นี่
หรือ โทร.081-6595711
แชมพูสระผมสมุนไพรนพเก้า ลดการหลุดร่วง กระตุ้นเส้นผมใหม่
ลดผมหงอก กำจัดรังแค ชันนตุ เหา
แชมพูสมุนไพรนพเก้ามีประคำดีควายมากถึง 50%
แชมพูสมุนไพรนพเก้าตอบโจทย์สุขภาพเส้นผม และหนังศรีษะ ระยะยาว สมุนไพรต้องใช้ให้เป็น
ใช้ไม่เป็นไม่เห็นผล คลิปนี้มีคำตอบ
วิธีใช้แชมพูสระผมสมุนไพรนพเก้า
ครั้งแรกสระผมทุกวัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อล้างสารเคมี ทำความสะอาดหนังศีรษะ
หรือกำจัดเชื้อรา หมักทิ้งไว้ 5-10 นาที และไม่ต้องใช้ครีมนวดผม หลังการใช้ 2-3 วันแรก
เส้นผมจะหนืดเหนียวไม่ต้องตกใจ ใช้เกิน 7-10 วัน ผมกลับมานุ่มสลวยดูเป็นธรรมชาติ
และใช้ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ
ใช้แชมพูสมุนไพรอย่างไรให้มีผลลัพธ์
หนังศีรษะคือผิวหนัง มีเหงื่อออก มีสิ่งสกปรกเข้าได้ มีน้ำมันใต้รูขุมขน เป็นสาเหตุทำให้เส้นผมหลุดร่วง มีรังแค การสระผมทุกวัน หรือ วันเว้นวัน อย่าเว้นเกิน 3 วัน หนังศีรษะสะอาด เป็นกระตุ้นเซลล์เส้นผมใหม่ รากผมแข็งแรง ผมร่วงน้อยมาก และไม่มีรังแค
- ผมร่วงหนักมาก สระผมทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน
- ผมร่วง มีรังแค ผมหงอก สระวันเว้นวัน เป็นเวลา 3 เดือน
ราคา 300 บาท
-------------------------------------
สนใจสั่งซื้อสินค้า>>สมัครตัวแทน>>สอบถาม
>>พูดคุย>>รับส่วนลด คลิกที่นี่
หรือ โทร.081-6595711
เพื่อประโยชน์สำหรับทุกท่าน กรุณาศึกษาข้อมูลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์
1.มะกรูด ประโยชน์ และสรรพคุณมะกรูดมีมากมาย ทั้งช่วยเสริมความงามและบำรุงสุขภาพ อยากรู้ว่ามะกรูดดีอย่างไรมาดูกันเลย
มะกรูดเป็นสมุนไพรที่นิยมใช้กันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะนำมาใช้ในการทำอาหาร ช่วยบำรุงสุขภาพเสริมความงาม หรือแม้แต่นำมาปลูกเพื่อเป็นสิริมงคล นอกจากนี้มะกรูดยังมีประโยชน์และสรรพคุณดี ๆ อีกมากมายที่ไม่ควรมองข้าม เรามาทำความรู้จักกับเจ้าพืชสมุนไพรผิวขุรขระชนิดนี้กันให้ดีขึ้นกว่าเดิมดีกว่าค่ะ พร้อมแล้วไปดูกันเลย
มะกรูด หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Citrus x hystrix L. นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีชื่ออีกหลากหลายชื่อ อาทิเช่น มะขู (แม่ฮ่องสอน), มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ), ส้มกรูด ส้มมั่วผี (ภาคใต้) เป็นต้น เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูล ส้ม (Citrus) โดยมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ลักษณะของมะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เนื้อไม้แข็ง ลำต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อย ใบเป็นใบประกอบชนิดลดรูป มีใบย่อย 1 ใบ เรียงสลับ รูปไข่ คือมีลักษณะคล้ายกับใบไม้ 2 ใบ ต่อกันอยู่ คอดกิ่วที่กลางใบเป็นตอน ๆ มีก้านแผ่ออกใหญ่เท่ากับแผ่นใบ ทำให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กว้าง 2.5-4 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร ใบสีเขียวแก่พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกลิ่นหอมมากเพราะมีต่อมน้ำมันอยู่ ซึ่งผลแบบนี้เรียกว่า ผลแบบส้ม (hesperitium) ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีอ่อน ดอกออกเป็นกระจุก 3–5 ดอก กลีบดอกสีขาว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกลิ่นหอม มีผลสีเขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ขั้วหัว-ท้ายของผลเป็นจุก ผลอ่อนมีเป็นสีเขียวแก่ เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด พันธุ์ที่มีผลเล็ก ผิวจะขรุขระน้อยกว่าและไม่มีจุกที่ขั้ว ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ๆ
สรรพคุณมะกรูด กับคุณประโยชน์ทางยาที่ไม่ควรมองข้าม
มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรโบราณที่มีคุณประโยชน์ทางยามากมาย โดยสามารถนำส่วนต่าง ๆ มาใช้รักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย มะกรูดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จึงมีส่วนช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายและต้านทานโรคหลายชนิดรวมทั้งมะเร็งบางชนิดด้วย นอกจากนี้มะกรูดยังมีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ อย่างเช่นเชื้ออีโคไล (E.coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) ได้ ช่วยบำรุงประจำเดือน ขับระดู และมักเป็นส่วนผสมสำคัญในยาสตรีต่าง ๆ อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ส่วนต่าง ๆ ของมะกรูดยังมีประโยชน์อีกมากมายไปดูกันเลยค่ะ
รากมะกรูด
- รากของมะกรูดมีรสจืดเย็น สามารถช่วยแก้อาการไข้ ถอนพิษสำแดง แก้ลมจุกเสียด กระทุ้งพิษไข้ แก้พิษฝีภายใน และช่วยอาการเสมหะเป็นพิษ
ผิวมะกรูด
- ผิวของมะกรูดสามารถช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้ โดยนำผิวของมะกรูดบดรวมกับรากชะเอม ไพล เฉียงพร้า ขมิ้นอ้อย แล้วนำมาต้มน้ำดื่ม
- เป็นยาบำรุงหัวใจ โดนนำผิวมะกรูดฝานสดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับพิมเสนหรือการบูรชงในน้ำเดือดแล้วแช่ทิ้งไว้ จากนั้นนำมาดื่ม
- ช่วยแก้อาการเป็นลม หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ โดยนำเปลือกมะกรูดฝานบาง ๆ ชงกับน้ำเดือดแล้วเติมการบูรเล็กน้อย นำมาดื่มเพื่อแก้อาการ
- ช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด แน่นท้องได้
- ช่วยขับสารพิษที่อยู่ในร่างกายให้ออกมาทางผิวหนังโดยการนำผิวมะกรูดมาใช้เป็นส่วนประกอบในการอบซาวน่าสมุนไพร
ใบมะกรูด
- ช่วยแก้ไอ แก้อาการอาเจียนเป็นเลือด
- ช่วยแก้อาการช้ำใน
- ใบมะกรูดอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนซึ่งช่วยในการชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็งและช่วยต่อต้านมะเร็งได้
ผลมะกรูด
- ช่วยแก้อาการไอ ขับเสมหะ โดยการนำมะกรูดผ่าครึ่งและนำไปลนไฟให้นิ่ม แล้วค่อย ๆ บีบน้ำมะกรูดลงคอทีละนิดจะช่วยทำให้อาการบรรเทาลงได้
- ช่วยฟอกโลหิต โดยนำผลมะกรูดสดมาผ่าเป็น 2 ซีกแล้วนำไปดองกับเกลือหรือน้ำผึ้งประมาณ 1 เดือน แล้วรินเอาแต่น้ำดื่ม
- ช่วยแก้อาการปวดท้อง หรือใช้เป็นยาแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน โดยการนำผลมะกรูดมาคว้านไส้กลางออก นำมหาหิงคุ์ใส่และปิดจุก แล้วนำไปเผาไฟจนดำเกรียมและบดจนเป็นผงละลายกับน้ำผึ้งไว้รับประทานแก้อาการปวดได้
- ช่วยขับระดู ขับลม โดยผลมะกรูดนำมาดองทำเป็นยาดองเปรี้ยวไว้รับประทาน
- ช่วยแก้อาการน้ำลายเหนียว
- แก้เถาดานในท้อง
- แก้ระดูเสีย ขับระดู
- ช่วยขับลมในลำไส้
นอกจากนี้น้ำจากผลมะกรูดยังสามารถใช้แก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย โดยใช้น้ำมะกรูดถูบาง ๆ บริเวณเหงือกหลังแปลงฟันเสร็จจะช่วยทำให้อาการเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงได้
ประโยชน์ของมะกรูด สมุนไพรสารพัดประโยชน์
มะกรูดเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ถูกนำมาใช้ในการปรุงอาหารคาวหวานต่าง ๆ และยังนำมาใช้ในพระราชพิธีสำคัญอย่างเช่น พระราชพิธีโสกันต์ ซึ่งระบุไว้ว่าจะต้องมีผลมะกรูดและใบส้มป่อยในการประกอบพิธี น้ำของมะกรูดก็สามารถนำมาใช้แทน หรือนำมาผสมกับน้ำมะนาวเพื่อใช้ปรุงอาหารได้อีกด้วย โดยน้ำมะกรูดนั้นจะมีรสเปรี้ยวกลมกล่อมและมีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
มะกรูดไล่ยุง ไล่แมลง
ในมะกรูดมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มาก มีกลิ่นฉุน จึงสามารถนำไปใช้ไล่แมลงบางชนิดได้ เช่น มอดและมดที่อยู่ในข้าวสาร ด้วยการใช้ใบมะกรูดสด ๆ ฉีกใบเป็น 2 ส่วน ให้กลิ่นออก แล้วใส่ไว้ในถังข้าวสารก็จะทำให้มอดและมดไม่ขึ้นข้าวสาร แล้วถ้าหากถูกปลิงกัดละก็ ให้นำมะกรูดมาถูตรงบริเวณที่มีปลิงเกาะจะทำให้ปลิงหลุดออกมาเอง นอกจากนี้มะกรูดสามารถใช้ในการไล่ยุงและกำจัดลูกน้ำโดยนำเปลือกมาตากแห้งแล้วนำไปเผาไฟก็จะสามารถไล่ยุงได้
ในปัจจุบัน มีการนำมะกรูดมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงและแมลงต่าง ๆ ซึ่งในการเกษตรก็ได้มีการนำน้ำมันหอมระเหยมะกรูดมาผลิตในรูปของแคปซูลเพื่อใช้ไล่แมลงและหนอนสำหรับเกษตรกร โดยนำไปโปรยยังบริเวณที่ต้องการไล่แมลง แล้วน้ำมันจะค่อย ๆ ซึมออกจากแคปซูล วิธีการนี้ทำให้เกษตรกรใช้สารเคมีลดลงเป็นผลให้พืชผลทางการเกษตรปลอดสารเคมีมากขึ้นอีกด้วยค่ะ
มะกรูดบำรุงผม
มะกรูดช่วยบำรุงผมให้เงางาม แก้อาการผมร่วง โดยการนำมะกรูดผ่าครึ่ง มาชโลมบนศีรษะหลังสระผมเสร็จทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก ก็จะช่วยทำให้ผมดำเงางามและลดผมร่วงได้ หรือจะนำน้ำมะกรูดมาหมักผมทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก็สามารถช่วยล้างสารพิษต่าง ๆ ที่มาจากสภาพแวดล้อมได้
* ผมสวยไร้รังแคด้วยมะกรูด
สูตรนี้เหมาะสำหรับขจัดรังแค แก้คันศีรษะ ใช้หมักผมและหนังศีรษะ
- นำมะกรูดเผาไฟให้พอมีน้ำมันซึมออกมาจากผิว และมีกลิ่นหอม แล้วนำมาผ่าครึ่ง
- บีบน้ำมะกรูดมาชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ หมักไว้ประมาณ 15-30 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
* ผมนุ่มลื่นสลวยด้วยมะกรูด
สูตรนี้สามารถสระแทนแชมพูได้จะทำให้ผมนิ่ม ลื่น และรักษาอาการคันศีรษะได้อีกด้วย
- นำมะกรูดผ่าครึ่ง ต้มกับน้ำเล็กน้อย สัดส่วน น้ำ : มะกรูด คือ 2 : 1 ตั้งไฟพอเดือดยกลง ปิดฝาทิ้งไว้ จากนั้นนำมาคั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง
- นำน้ำมะกรูดที่ได้มาชโลมให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ ใช้ทำความสะอาดเส้นผมแทนแชมพู หรือใช้เคลือบเส้นผมแทนครีมนวดผมก็ได้
* แชมพูมะกรูดสูตร 1
ส่วนผสม
1. มะกรูด 3-5 ผล
2. ใบหมี่ 10 ใบ
3. น้ำซาวข้าวเหนียว 1 ลิตร
วิธีทำ
- มะกรูดผ่าตามขวางเป็นสองซีก ตั้งน้ำพอเดือด ใส่มะกรูดและใบหมี่ลงไปในหม้อที่มีน้ำซาวข้าวเหนียว
- รอให้เดือดต่อประมาณ 10 นาที ยกลงแล้วปิดฝาทิ้งไว้รอจนเย็น
- รอให้เดือดต่อประมาณ 10 นาที ยกลงแล้วปิดฝาทิ้งไว้รอจนเย็น
- ใช้ผ้าขาวบางกรองเอากากออก แล้วเก็บใส่ขวดไว้ใช้สระผมแทนแชมพู
* แชมพูมะกรูดสูตร 2
ส่วนผสม
1. มะกรูด 3-5 ผล
2. หญ้าปักกิ่ง 1 ถ้วย
วิธีทำ
- มะกรูดผ่าตามขวางเป็นสองซีก หญ้าปักกิ่งทั้งต้นล้างน้ำให้สะอาดใช้ทั้งราก ทั้งใบ
- ใส่มะกรูด หญ้าปักกิ่ง น้ำซาวข้าว ในหม้อตั้งไฟปานกลาง รอให้เดือดประมาณ 20 นาที ปิดฝายกลง
- รอจนน้ำเย็น สังเกตสีของน้ำจะคล้ำขึ้น ใช้มือคั้นเอาแต่น้ำ ทิ้งกาก
- กรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง เก็บใส่ขวดไว้ใช้สระผมแทนแชมพู
มะกรูดดับกลิ่น
มะกรูดสามารถดับกลิ่นต่าง ๆ อย่างเช่น กลิ่นคาวของอาหารคาวหาน หรือจะเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของเท้าโดยการนำมาผสมกับขิง ข่า และเกลือในปริมาณเท่า ๆ กัน ต้มให้น้ำอุ่นแล้วแช่เท้าลงไปประมาณ 15 นาที ก็จะช่วยลดกลิ่นอับที่เท้าและช่วยคลายความเมื่อยล้าได้ มะกรูดสามารถนำมาใช้ดูดกลิ่นที่มาจากรองเท้าหรือกลิ่นที่อยู่ในตู้รองเท้าได้ ด้วยการใช้ผิวมะกรูด ตะไคร้หอม ถ่านป่น และสารส้ม มาใส่ถุงที่ทำจากผ้าขาวบาง เอาไปใส่ไว้ในตู้รองเท้าหรือในรองเท้า จะทำให้กลิ่นต่าง ๆ หายไป
มะกรูด มีโทษหรือไม่
ถึงแม้มะกรูดจะเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์แต่ถ้าหากใช้น้ำมันมะกรูดสัมผัสกับผิวโดยตรง เมื่อไปถูกแสงแดดก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้แสงแดดจนกลายเป็นแผลไหม้ได้ เพราะในน้ำมะกรูดมีสารออกซิเพดามิน (oxypedamin) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการแพ้เมื่อโดนแสงแดด (photo toxicity) และสารดีไลโมนีน (d-limonene) ซึ่งเมื่อโดนอากาศเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย หากนำน้ำมะกรูดมาสัมผัสกับผิวแล้วละก็ ภายในสี่ชั่วโมงไม่ควรให้บริเวณที่โดนน้ำมะกรูดถูกแสงแดดค่ะ
เห็นไหมล่ะคะว่ามะกรูดเจ้าพืชสมุนไพรผิวขรุขระนี้มีประโยชน์มากแค่ไหน แถมกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมันยังสามารถนำมาทำประโยชน์ได้อีกมากมาย ถ้าหากใครที่กำลังสนใจจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากสมุนไพรก็ไม่ควรพลาดผลิตภัณฑ์จากมะกรูดเลยล่ะ เพราะนอกจากจะเป็นสมุนไพรไทย ๆ แล้ว ยังมีราคาไม่แพงด้วยนะ รับรองว่าใช้แล้วจะติดใจแน่นอนเลยจ้า
2.ดอกอัญชัน สรรพคุณชั้นเลิศ บำรุงสายตา และช่วยให้ผมดกดำ มาทำความรู้จักกับอัญชันกันให้มากขึ้น ดูสิว่าประโยชน์ของดอกอัญชันมีอะไรบ้างนะ
รู้จักดอกอัญชัน
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับสรรพคุณและประโยชน์ของดอกอัญชัน เรามาทำความรู้จักกับอัญชันกันให้มากขึ้นหน่อยดีกว่าค่ะ เผื่อใครที่ยังไม่รู้จักเวลาไปเห็นที่ไหนจะได้ทราบกันค่ะ อัญชัน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Butterfly pea, Blue pea, หรือ Asian pigeonwings มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Clitoria ternatea L. เป็นพืชตระกูลถั่ว (Fabaceae) อยู่ในวงศ์ Leguminosae เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบอเมริกาใต้ โดยทั่วไปนิยมปลูกในเขตร้อน อัญชันเป็นพืชล้มลุก
ลักษณะต้นเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ใบเป็นใบประกอบ ดอกอัญชันเป็นดอกเดี่ยว มีสีน้ำเงินเข้มหรือน้ำเงินอมม่วง และสีขาว ดอกชั้นในแบ่งเป็น 5 กลีบ กลีบนอกมีสีเขียว มีผลเป็นฝัก ลักษณะแบนคล้ายฝักถั่ว ขนาดยาวประมาณ 5-10 ซม. ดอกอัญชันมีชื่อเรียกตามท้องถื่นที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ในภาคเหนือจะเรียกดอกอัญชันว่า เอื้องชัน แต่ในจังหวัดเชียงใหม่จะเรียกว่าแดงชัน
สรรพคุณดอกอัญชันอันน่าทึ่ง
ดอกอัญชันมีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยในดอกอัญชันนั้นมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อว่าแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งสารชนิดนี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของดวงตา เพิ่มความสามารถในการมองเห็น แก้อาการตาฟาง ตามัว หรือภาวะการเสื่อมของดวงตาที่มาจากโรคเบาหวาน โรคต้อหิน โรคต้อกระจก และมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น
แถมยังมีฤทธิ์ต้านการออกซิเดชั่นของไขมัน ชะลอการเกิดโรคที่เกิดจากคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) อุดตันในหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัวอีกด้วย และคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดอกอัญชันนั้นยังช่วยยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ช่วยขับปัสสาวะ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
รากอัญชัน
- นำมาปรุงเป็นเป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายได้
- แก้อาการปวดฟัน และทำให้ฟันแข็งแรง โดยการนำรากมาถูที่ฟัน
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้น โดยนำรากไปถูกับน้ำฝน แล้วนำมาที่หยอดตาและหู
ใบอัญชัน
- ช่วยขับปัสสาวะ
- ช่วยบำรุงสายตาและอาการตาแฉะได้
ดอกอัญชัน
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังทำให้ร่างกายมีแรงขึ้น
- สารต้านอนุมูลอิสระในดอกอัญชันช่วยในการชะลอวัยและริ้วรอยแห่งวัย
- ช่วยบำรุงสมอง
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ช่วยล้างสารพิษและขับของเสียออกจากร่างกาย
- แก้อาการปัสสาวะพิการ
- แก้อาการฟกช้ำ
- ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชาตามนิ้วมือนิ้วเท้า
ประโยชน์ของดอกอัญชัน ที่ใช้กันแพร่หลาย
นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ดอกอัญชันยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำสีจากดอกอัญชันไปผสมอาหารและขนมให้มีสีสันสวยงาม การนำดอกสดมารับประทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริกชนิดต่าง ๆ นำมาต้มดื่ม หรือนำไปปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตามรั้ว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คงเป็นการนำมาใช้บำรุงผมให้ดกดำเงางาม และรักษาอาการผมร่วงหรือผมบางได้อีกด้วยล่ะค่ะ
ส่วนผสม
- ดอกอัญชัน 100 กรัม
- น้ำสะอาด 2 ถ้วย
- น้ำเชื่อม 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำดอกอัญชันล้างน้ำให้สะอาด แล้วไปต้มกับน้ำสะอาดจนเดือด ปิดฝาทิ้งไว้ ประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองดอกอัญชันขึ้นจากหม้อต้ม
- นำน้ำดอกอัญชันที่ได้ผสมน้ำเชื่อม และน้ำผึ้งผสมรวมกัน ชิมรสตามชอบ และเมื่อทำเสร็จควรรีบดื่มให้หมดเพื่อให้ได้สารอาหารที่มีคุณค่า
พันช์น้ำดอกอัญชัน
ส่วนผสม
- โซดาแช่เย็น 1 ขวด
- น้ำดอกอัญชัน 1/2 ถ้วย
- น้ำเชื่อม 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
- นำน้ำดอกอัญชัน น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง และน้ำมะนาวผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามใจชอบแล้วเติมโซดา ชิมและปรับรสชาติตามชอบ
- เสิร์ฟโดยการเติมน้ำแข็งเกล็ดละเอียดลงในแก้ว
อาหารสีสวยด้วยอัญชัน
สารแอนโทไซยานินในดอกอัญชัน เป็นสารที่มีสีม่วงคราม และเป็นสีที่ละลายได้ในน้ำ และไม่คงตัวไม่ละลายในกรด ทำให้คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณนิยมนำสีจากดอกอัญชันมาผสมในอาหารและขนมต่าง ๆ เพื่อให้มีสีสันสวยงาม โดยหากนำมาผสมในขนมหรืออาหารจะได้สีน้ำเงิน แต่หากบีบน้ำมะนาวลงไปด้วยสีที่ได้จะกลายเป็นสีม่วงแดงค่ะ
คิ้วดกดำด้วยอัญชัน
ส่วนผสม
- ดอกอัญชัน ประมาณ 6 ดอก
- น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- นำดอกอัญชันมาคั้นหรือขยี้ให้ได้น้ำ ระหว่างคั้นเติมน้ำลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะเพื่อจะได้คั้นง่ายขึ้น จากนั้นแยกกากออกกรองเอาแต่น้ำ
- ใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำอัญชันที่ได้ แล้วนำมาทาบริเวณคิ้วทั้งหมด ทาทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นล้างออก ทำซ้ำบ่อย ๆ ก็จะทำให้คิ้วหนาและดกดำขึ้นได้
ผมสวยด้วยอัญชัน
ส่วนผสม
- ดอกอัญชัน 7 – 8 ดอก
- น้ำสะอาด 1 ถ้วย
วิธีทำ
- เลือกเอาเฉพาะกลีบของดอกอัญชันมาบดแล้วรวมกับน้ำสะอาดตามด้วยน้ำเปล่า บดจนละเอียดแล้วกรองโดยใช้ผ้าขาวบางแยกเอากากออกให้เหลือเพียงแต่น้ำ
- นำน้ำดอกอัญชันที่ได้มาหมักผมทิ้งไว้ 15–20 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากทำบ่อยก็จะทำให้ผมดกดำและเป็นเงางาม แถมยังช่วยให้ผมยาวเร็วได้อีกด้วยค่ะ
ปลูกผมด้วยอัญชัน
ส่วนผสม
- ดอกอัญชัน 10 ดอก
- เหล้าขาว
วิธีทำ
- นำดอกอัญชันแช่ลงในเหล้าขาวสักครู่
- ขยี้ดอกอัญชันผสมกับเหล้าขาวที่แช่ไว้จนเข้ากัน จากนั้นนำมาชโลมศีรษะทิ้งไว้ 4-5 ชั่วโมง แล้วล้างออก
- ทำซ้ำบ่อย ๆ ประมาณ 2-3 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผล
นอกจากสูตรการบำรุงผมด้วยดอกอัญชันที่บอกกันไปแล้ว ในปัจจุบันก็ได้มีการนำดอกอัญชันมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างเช่น แชมพู ครีมนวดผม และครีมหมักผมต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้มากขึ้น และยังมีการนำดอกอัญชันไปตากแห้ง แล้วนำมาชงดื่มเป็นชาบำรุงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งก็แล้วแต่คนจะเลือกว่าอยากจะใช้แบบดอกสดหรือแบบแห้ง เพราะทั้งสองอย่างก็ได้ประโยชน์ทั้งคู่เลยค่ะ
โทษของดอกอัญชันและข้อควรระวัง
แม้ว่าดอกอัญชันจะเป็นสมุนไพร แต่ก็ยังมีโทษถ้าหากใช้มากเกินไปค่ะ โดยอย่าดื่มน้ำอัญชันที่มีสีเข้มมากเกินไป เพราะจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้นในการขับสารสีจากอัญชันออกมา และผู้ที่ป่วยด้วยโรคโลหิตจางก็ไม่ควรจะรับประทานดอกอัญชันรวมทั้งอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของอัญชันด้วย เพราะในดอกอัญชันนั้นมีสารที่มีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโลหิตจางได้ค่ะ
สมุนไพรอย่างดอกอัญชัน นอกจากจะมีสีที่สวยแปลกตาแล้ว ยังเป็นสมุนไพรที่หาง่ายอีกด้วยนะคะ และเราสามารถปลูกได้เองที่บ้าน แต่ก็ควรใช้ให้พอดี เพราะสมุนไพรทุกชนิด ใช้มากเกินไปก็เป็นโทษได้เช่นกัน ถ้าใครกำลังหนักใจกับคิ้วที่บางเกินไป หรือผมที่ไม่ดกดำนุ่มสลวย ลองมองหาดอกอัญชันแถว ๆ บ้าน แล้วนำมาใช้ดูนะคะ รับรองว่าปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปแน่นอนเลยค่ะ
3.มะคำดีควายหรืออีกชื่อหนึ่งที่เราจะคุ้นหูมากกว่าก็คือ ประคำดีควาย แต่อันที่จริงสมุนไพรทั้งสองชนิดเป็นคนละชนิดกัน เพียงแต่ว่าอยู่ในตระกูลพืชเดียวกันเท่านั้น นั่นก็คือ พืชตระกูลเงาะ นั่นเอง
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sapindus emarginatus Wall.
ชื่อสามัญ : Soap Nut Tree
วงศ์ : Sapindaceae
ชื่อสามัญ : Soap Nut Tree
วงศ์ : Sapindaceae
ชื่อเรียกของมะคำดีควายในแต่ละท้องถิ่น
ภาคเหนือ เรียกว่า มะซัก ส้มป่อยเทศ ชะแซ
ภาคกลาง เรียกว่า ประคำดีควาย
ลักษณะของมะคำดีควาย
ต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดปานกลาง มีความสูงประมาณ 10 เมตร ลำต้นเป็นสีน้ำตาล
ใบ : คล้ายขนนนก ส่วนปลายและโคนใบจะมน มีสีเขียว
ดอก : ออกเป็นช่อตรงบริเวณส่วนปลายของกิ่ง ดอกมีสีขาวหรือเหลืองนวล
ผล : มักจะออกเป็นพวงรวมกัน ผลค่อนข้างกลม เมล็ดจะเป็นสีดำมีเปลือกหุ้มอยู่อีกที
สรรพคุณของมะคำดีควาย
- เปลือก ช่วยรักษาอาการแก้ไข้ แก้พิษ มีฤทธิ์เป็นยาแก้กษัย รักษาอาการเป็นฝีอักเสบและฝีหัวคว่ำ
- ผล รักษาอาการปากเปื่อย รักษาอาการไข้ ตัวร้อน รักษาอาการอีสุกอีใส รักษาอาการนอนไม่หลับกระสับกระส่าย แก้อาการไข้เซื่องซึม รักษาอาการหอบ ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการเป็นหวัด คัดจมูก
- ราก ช่วยในการดับพิษต่างๆ รักษาอาการของโรคริดสีดวง รักษาอาการเกิดฝีในท้อง รักษาอาการหอบหืดและรักษาอาการไอ
- ดอก ช่วยรักษาอาการผดผื่นคันตามผิวหนัง ยอดอ่อน รักษาอาการถ่ายไม่ออก
- เมล็ด มีฤทธิ์ในการถ่ายพยาธิ เป็นยาระบายทำให้เกิดอาการท้องเสีย
<< การนำมะคำดีควายไปใช้เป็นยารักษาโรค >>
- รักษาอาการท้องผูก โดยการรับประทาน ใบอ่อนหรือเมล็ดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
- รักษาโรคผิวหนัง โดยนำเมล็ด สามารถใช้ได้ทั้งเมล็ดสดและแห้ง มาทำการตำให้ละเอียด แล้วนำไปพอกบริเวณผิวหนังหรืออาจใช้ผสมกับน้ำแล้วนำไปล้างบริเวณผิวหนังที่เป็นอาการ
- รักษาโรคชันนะตุ คืออาการที่หนังศีรษะเกิดเป็นแผลพุพอง โดยนำผลประมาณ 5 ผล มาแกะเอาเฉพาะเนื้อ แล้วเอาไปต้มกับน้ำปริมาณ 1 ถ้วย ใช้ทาบริเวณที่เป็นชันนะตุทุกเวลาเช้าและเย็น หรืออาจจะใช้เนื้อจากผลเพียงครั้งละผล มาผสมกับน้ำเพื่อสระผม โดยสระวันละครั้งจนกว่าจะหาย
- รักษาอาการหอบหืดและดับพิษทุกชนิด โดยใช้ผลแห้งไปคั่วกับไฟให้ไหม้เกรียมแล้วรับประทาน
การนำมะคำดีควายไปใช้เกี่ยวกับการดูแลหนังศีรษะและเส้นผม >>มะคำดีควายเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เติบโตได้ตามภูเขา หรือปลูกในพื้นที่ทั่วไปได้ ปกติมะคำดีควายที่มีอยู่ปัจจุบัน เติบโตเองตามธรรมชาติ ยังเห็นอยู่ตามข้างทาง ชายทุ่ง ไร่นา หรือในป่า จะออกดอกและเป็นผล เมื่อผลแห้ง เปลือกของมะคำดีควายในสมัยโบราณนิยมนำมาสระผม เมื่อทุบเอาแต่เปลือก แกะเมล็ดออก ขยี้เปลือกให้ละเอียดจะเกิดฟองสามารถใช้หมักผมได้ หรือนำมาขัดผิว ช่วยบำรุงเส้นผมและป้องกันโรคที่เกิดบนศรีษะได้
จากการทดลองด้วยการทาสารสกัดเอทานอลของผลมะคำดีควายที่ความเข้มข้นร้อยละ 2 พบว่ามีฤทธิ์ในการต้านเชื้อรา และการใช้แชมพูจากสารสกัดของผลมะคำดีควายที่ความเข้มข้น 6 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร พบว่าจะช่วยทำให้เส้นผมสะอาดและช่วยลดอาการคันบนหนังศีรษะ สารสำคัญที่พบได้แก่ ß-Sitosterol, Emarginatoside, Quercetin, Quercetin-3-a-A-arabofuranoside, O-Methyl-Saponin
มะคําดีควาย
สรรพคุณและการนำไปใช้
- สาร Saponin จะมีความเป็นกรดเล็กน้อยและช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะโดยไม่ทำลายไขมันที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
- ช่วยขจัดรังแค เซลล์ที่ตายแล้ว และช่วยสร้างเซลล์ใหม่
- ใช้ผสมในผลิตภัณฑ์สครับผิว แชมพู
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี
- lasik-healthyforeyes.blogspot.com
- foodnetworksolution.com